บทความทั้งหมด
บทความทั้งหมด

แจ้งเกิด! Emerging Markets โอกาสรอบใหม่ในยุคดอกเบี้ยขาลง

ในที่สุดยุคของ “ดอกเบี้ยขาลง” ก็มาถึงจนได้ หลังจากมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลงไป 0.25% เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นับเป็นเรื่องราวที่สร้างความเซอร์ไพรส์ไม่น้อยสำหรับนักลงทุนทั่วโลก หลังจากที่ Fed ไม่ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยมาแล้วสักพักใหญ่ ตั้งแต่ที่เข้าสู่ปี 2568 เป็นต้นมา

Author

ระยะเวลา: 2 นาที

วันที่: 07 ต.ค. 2568

ในที่สุดยุคของ “ดอกเบี้ยขาลง” ก็มาถึงจนได้

หลังจากมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลงไป 0.25% เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นับเป็นเรื่องราวที่สร้างความเซอร์ไพรส์ไม่น้อยสำหรับนักลงทุนทั่วโลก หลังจากที่ Fed ไม่ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยมาแล้วสักพักใหญ่ ตั้งแต่ที่เข้าสู่ปี 2568 เป็นต้นมา

โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้ชี้ว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานในประเทศที่ชะลอตัวลง เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว และจะมุ่งเน้นไปที่นโยบายการเงินแบบ “ประนีประนอม” มากขึ้น นอกจากนี้ การเปิดเผย Dot Plot ของคณะกรรมการ Fed ยังได้สะท้อนมุมมองส่วนใหญ่ที่คาดหวังว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง ภายในปลายเดือนตุลาคมและธันวาคมที่จะถึงนี้อีกด้วย

แน่นอนว่าทุกครั้งที่ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ย่อมส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดการลงทุน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้รุ่นเก่า ที่มักจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ตราสารหนี้เท่านั้นที่น่าจับตามอง เพราะยังมีอีกหนึ่งกลุ่มตลาดที่ได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยขาลงเช่นกัน นั่นก็คือ ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) เนื่องจาก...

  • ธนาคารกลางประเทศตลาดเกิดใหม่มีพื้นที่ในการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตาม Fed เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศโดยไม่เสี่ยงต่อการไหลออกของเงินทุนมากนัก
  • ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ช่วยลดภาระหนี้ต่างประเทศของประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่มีหนี้สกุลดอลลาร์
  • อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้สหรัฐฯ รุ่นใหม่ที่ลดลง ทำให้ตลาดเกิดใหม่ดูน่าสนใจมากขึ้นในสายตานักลงทุน กระแสเงินลงทุนจากทั่วโลกจึงไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่มากขึ้น ทำให้เกิดวัฏจักรเชิงบวก ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระวังความเสี่ยง หาก Fed ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อาจส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวน นักลงทุนควรติดตามแนวโน้มนโยบายของ Fed อย่างใกล้ชิด

  • ปัจจัยโครงสร้างยังแข็งแกร่ง
    การเติบโตของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่ เริ่มโดดเด่นขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2020 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอินเดีย ที่มีศักยภาพเติบโตสูงเป็นพิเศษ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเอกชน และการบริโภคในชนบทที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ทำให้อินเดียถูกมองว่าเป็น “ตัวขับเคลื่อนหลัก” ของเศรษฐกิจโลกและตลาดเกิดใหม่ เช่นเดียวกับทางเม็กซิโกซึ่งก็มีศักยภาพสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • ตลาดกำลังเติบโตและน่าจับตา
    การเติบโตของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่ เริ่มโดดเด่นขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2020 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอินเดีย ที่มีศักยภาพเติบโตสูงเป็นพิเศษ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเอกชน และการบริโภคในชนบทที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ทำให้อินเดียถูกมองว่าเป็น “ตัวขับเคลื่อนหลัก” ของเศรษฐกิจโลกและตลาดเกิดใหม่ เช่นเดียวกับทางเม็กซิโกซึ่งก็มีศักยภาพสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • เสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
    ธนาคารกลางและรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศของตลาดเกิดใหม่ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงวินัยทางการเงินและการคลังที่รอบคอบ โดยทั้งภาคเอกชนและภาครัฐยังมีระดับหนี้อยู่ในเกณฑ์แข็งแรง ทำให้สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ธุรกิจในภูมิภาคนี้มีจุดแข็งสำคัญ ทั้งกระแสเงินสดอิสระ การเติบโตของกำไร อำนาจการตั้งราคา และระดับหนี้ที่ต่ำ

ที่มา : Aberdeen (กันยายน 2568)

ซึ่ง Aberdeen Investments ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ที่มีสำนักงานมากกว่า 25 แห่งทั่วโลก ก็ได้เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของ Emerging Markets มาอย่างต่อเนื่องและมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในช่วงนี้

กองทุนนี้มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก abrdn SICAV I - Emerging Markets Equity Fund Z Acc USD ซึ่งบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของอเบอร์ดีน

พอร์ตการลงทุนมุ่งเน้นหุ้นคุณภาพสูงที่มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่น ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) จำนวนราว 40-70 บริษัท ซึ่งทุกตัวถูกคัดสรรผ่านมาตรฐานการประเมินที่เข้มงวดของ Aberdeen Investments เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิง

ดังนั้นกองทุน ABGEM จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนตามเทรนด์การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก และผู้ที่มองหาโอกาสเพิ่มศักยภาพผลตอบแทนให้กับพอร์ตลงทุนของตัวเอง

คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6

ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร 02-352-3388 อีเมล: client.services.th@aberdeenplc.com

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนรวมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

ที่มา : Reuters (สิงหาคม 2568), CNBC (กันยายน 2568), Financial Express (กันยายน 2568), Economic Times (กันยายน 2568) และ S&P Global (กันยายน 2568)