บทความทั้งหมด
ตราสารทุนเชิงรุก

คว้าการเติบโตหุ้นจีนอย่างยั่งยืน กับกองทุน ABCG และ ABCA-A

ขณะนี้ “จีน” กำลังเตรียมเปิดฉากใหม่ทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ ผ่านแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 15 (ปี 2026-2030) ที่จะขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังของ "AI และนวัตกรรม" อย่างเต็มรูปแบบ…

Author
Chinese New Year

ระยะเวลา: 2 นาที

วันที่: 20 ต.ค. 2568

เรียกได้ว่า เวลานี้ คือช่วงเวลาสำคัญที่ตลาดหุ้นจีนกำลังฉายศักยภาพที่น่าตื่นเต้น และน่าจับตามองอย่างมาก แม้ว่าธนาคารโลกจะมีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2025 จะอยู่ที่ 4.8% และเติบโตลดลงในปี 2026 อยู่ที่ 4.2% ก็ตาม1

แต่จีนยังมีปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาวที่เป็นลมส่งด้วยกัน 3 ส่วนหลัก ๆ

1) การบริโภคภายในประเทศ

การบริโภคในประเทศยังเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจจีน สะท้อนจากยอดค้าปลีกครึ่งปีแรกที่สูงถึง 24.55 ล้านล้านหยวน คิดเป็นแรงส่งสำคัญให้ GDP เติบโตถึง 52%2

นอกจากนี้ การบริโภคเชิงสีเขียวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายเก่าแลกใหม่ ส่งเสริมยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) โดยการสนับสนุนเชิงนโยบายที่แข็งแกร่งนี้ ทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการแลกเปลี่ยนรถยนต์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนพฤษภาคม ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของจีนเติบโตขึ้นแล้วกว่า 6.4%3

อีกทั้ง "เศรษฐกิจผู้สูงอายุ (Silver Economy)" ก็กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังซื้อมหาศาลในระยะยาว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 19.1 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็น 28% ของการบริโภคทั้งหมดภายในปี 2035 อีกด้วย4

2) กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ Emerging Market

เวลานี้นักลงทุนทั่วโลกกำลังมุ่งย้ายเงินลงทุนมาสู่ “ตลาดเกิดใหม่" (EM) ซึ่งรวมถึงจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย 3 เหตุผลหลักคือ

  • โอกาสในการเติบโต โดยนักลงทุนมองว่าหุ้นในกลุ่ม EM ตอนนี้เหมือนของดีที่ราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว (DM) อย่างสหรัฐฯ หรือยุโรป จึงมีโอกาสทำกำไรให้กับพอร์ตลงทุนได้มากกว่า
  • เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า การที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง จะเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทในตลาดเกิดใหม่ได้อย่างมาก
  • อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ สภาพคล่องที่ล้นเหลือ บวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีความเสถียรภาพมากด้วยเหตุผลนี้ จึงมองว่าตลาดหุ้นจีนยังอยู่ในช่วงตลาดขาขึ้น และที่สำคัญคือ หุ้นจีนเวลานี้ก็เพิ่งเดินทางมาถึงช่วงกลางของวัฏจักรขาขึ้น ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้อีกไกล
3) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

หลังจากกระแส Deep Seek ที่เข้ามาเขย่าโลก ตลาดหุ้นจีนก็ถูกขับเคลื่อนด้วยกระแส AI มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเทคโนโลยีภายในประเทศ ต่างก็เร่งเครื่องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาล

ล่าสุดทางรัฐบาลจีนเองก็ได้อัดฉีดเงินกว่า 5 แสนล้านหยวน เพื่อหนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล AI ระบบโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการบริโภค ซึ่งจะส่งผลบวกให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี หรือด้านนวัตกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ และเภสัชกรรม เป็นต้น5

นอกจากนี้ ก็ยังมีมาตรการอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ ทั้งภาคครัวเรือน-ธุรกิจใน 8 กลุ่มบริการ ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมสภาพคล่อง และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ไม่น้อย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศได้อีกด้วย

นอกเหนือจาก 3 ปัจจัยข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ “Made in China 2025” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านให้ประเทศจีนเดินหน้าเข้าสู่การเป็น “มหาอำนาจทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม” ที่แม้เวลานี้จีนจะยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่จีนก็ยังมีผลงานความสำเร็จอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • การเข้าสู่ 10 อันดับแรกของดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index : GII)
  • การครองส่วนแบ่งภาคการผลิตถึง 30% ของโลก อีกทั้งยังรักษาตำแหน่งมหาอำนาจด้านการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลกไว้ได้เป็นปีที่ 15 ติดต่อกันอีกด้วย6

ลงทุนในจีนอย่างมั่นใจ กับประสบการณ์กว่า 30 ปีของ Aberdeen Investments ผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดสรรสินทรัพย์ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมในตลาดหุ้นจีนยาวนาน ทำให้เรามีความเข้าใจในพื้นฐานประเทศ เศรษฐกิจ การเติบโตและโอกาสการลงทุนของจีนอย่างลึกซึ้ง

จากความเชี่ยวชาญนี้ จึงได้ออกแบบกลยุทธ์ลงทุนที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกระจายการลงทุนใน 5 ธีมหลักแห่งอนาคต ได้แก่ การบริโภคในประเทศ, เทคโนโลยี, การบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง, เฮลท์แคร์ และธุรกิจสีเขียว อีกทั้ง 2 กองทุนหุ้นจีนของอเบอร์ดีนยังเป็น SRI Fund ที่กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ผสานปัจจัยด้าน ESG Integration โดยคัดกรองและส่งเสริมการลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง

กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6

ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 อีเมล: client.services.th@aberdeenplc.com

คำเตือน: นํ้าหนักและธีมการลงทุนรวมถึงตัวอย่างการลงทุนในหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนรวมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

  1. CNBC, 7 ตุลาคม 2025
  2. DITP, 31 กรกฎาคม 2025
  3. Global Times, 24 มิถุนายน 2025
  4. Global Times, 19 กันยายน 2025
  5. Bloomberg News, 30 พฤษภาคม 2025
  6. China briefing, 24 กันยายน 2025