เทรนด์ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ขาลง จังหวะเติบโตของหุ้นไซซ์เล็ก กับกองทุน ABAGS
วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ที่กดดันตลาดมาอย่างยาวนาน คาดว่าวันนี้... กำลังจะเปลี่ยนทิศทางแล้ว แม้ว่าในปีนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังไม่มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สัญญาณจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มคงตัว และอัตราการว่างงานที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย กำลังสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่า... การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจใกล้เข้ามาแล้ว !

ระยะเวลา: 2 นาที
วันที่: 15 ก.ย. 2568
ในงานสัมมนา Jackson Hole เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักวิเคราะห์หลายท่าน มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยรวม 0.50% ได้ ภายในสิ้นปีนี้1
จากสถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และเป็นโอกาสทองของ “หุ้นไซซ์เล็กในสหรัฐฯ” ที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลดีโดยตรงต่อบริษัทขนาดเล็กมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่ ด้วยเหตุผลสำคัญคือ
“โครงสร้างหนี้” ของหุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนหนี้กับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) สูงถึง 37% ของหนี้ทั้งหมด ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่มีสัดส่วนดังกล่าวเพียง 15% เท่านั้น2
นั่นหมายความว่า เมื่อ Fed ลดอัตราดอกเบี้ย บริษัทขนาดเล็กจะมี “ต้นทุนทางการเงิน” ที่ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องหลายมิติเช่น...
- มีกระแสเงินสดมากขึ้น จากภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายน้อยลง
- กำไรสุทธิมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากต้นทุนที่ลดลง
- โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
- มีแนวโน้มดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและโอกาสของราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้แรงกว่าหุ้นขนาดใหญ่
นอกเหนือจากนี้ Aberdeen Investments ยังมองว่าหุ้นไซซ์เล็กของสหรัฐฯ ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่น่าสนใจอีกหลายด้าน เช่น
- บริษัทขนาดเล็กที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap.) ไม่สูง จะมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมหาศาล
- ระดับ Valuation ที่น่าดึงดูดใจของหุ้นขนาดเล็กจำนวนมากยังมีระดับราคาที่ค่อนข้างถูก โดยหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ มีระดับ P/E Ratio อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนับตั้งแต่ปี 1978 จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้เข้าซื้อธุรกิจที่มีโอกาสโตสูงในราคาที่สมเหตุสมผล3
- นโยบายทรัมป์ 2.0 ที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจในประเทศ ผ่านมาตรการลดภาษี ลดกฎเกณฑ์ และส่งเสริมการย้ายฐานผลิตกลับสหรัฐฯ (Reshoring) ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทขนาดเล็กโดยตรง
- ทิศทางผลประกอบการยังคงเติบโตชัดเจน โดยคาดว่าหุ้นขนาดเล็กจะมีการเติบโตของผลประกอบการสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ในปี 2568 และ 25694
จากปัจจัยสนับสนุนทั้งหมดนี้ ทำให้หุ้นไซซ์เล็กของสหรัฐฯ กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าจับตามองสำหรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจจากภาวะตลาดปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ย่อมมีความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ การคัดเลือกหุ้นรายตัว จึงจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก หรือหากสนใจลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” ก็ต้องอาศัยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการ คัดเลือก และวิเคราะห์บริษัทที่มีศักยภาพมาให้แล้ว ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยง และยังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอีกด้วย
Aberdeen Investments ผู้เชี่ยวชาญในการคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีเกณฑ์คัดเลือกที่แข็งแกร่ง มีการใช้การวิจัยพื้นฐานมาช่วยตัดสินใจลงทุน ช่วยให้สามารถประเมินคุณภาพของบริษัทต่าง ๆ ได้ โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกที่เข้มงวด เพื่อค้นหาโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ชัดเจน รวมถึงมีคุณสมบัติที่เหมาะจะเป็นผู้นำและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะกำหนดอนาคต
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท - สมอลเลอร์ คอมพานี ฟันด์ - ชนิดสะสมมูลค่า (ABAGS) กองทุนที่เฟ้นหาหุ้นเล็กอนาคตไกลในสหรัฐ ที่มีศักยภาพเติบโตแบบก้าวกระโดด
โดยกองทุนนี้มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I - North American Smaller Companies Fund
จุดเด่นของกองทุนหลักนี้ มีการบริหารพอร์ตแบบเชิงรุก และมีการกระจายการลงทุนครอบคลุมหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ประมาณ 40-60 บริษัท
โดยผู้จัดการกองทุนจะไม่ได้มองหาแค่บริษัทที่เติบโตเร็ว แต่จะคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพ คือ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน มีการเติบโตของกำไรที่ดีต่อเนื่อง หนี้ต่ำ สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างที่ชัดเจน และที่สำคัญคือมีโอกาสในการเติบโตสูง
คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร 02-352-3388
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนรวมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ที่มา : Reuters, สิงหาคม 2568
- ที่มา: Aberdeen, FactSet, JPMorgan, กุมภาพันธ์ 2568
- ที่มา: Factset, Bloomberg, Aberdeen, มีนาคม 2568
- ที่มา: Aberdeen, มิถุนายน 2568